ซัมเมอร์จากบอร์ด

การล้มเหลวของยักษ์ใหญ่
เมื่อได้ยินว่าซัมเมอร์จะอยู่กับดอร์ทมุนด์ต่อไป ผมไม่คิดเลยว่าจะต้องเจอกับการลดเงินเดือน เขาคนนี้คือผู้สร้างรากฐานใหม่ให้สโมสร—จากโรงเรียนฟุตบอลเยาวชน จนถึงระบบโอนผู้เล่นที่ชาญฉลาด แต่ตอนนี้ เขาได้รับแค่ครึ่งหนึ่งของเงินเดิม และบอกว่า: “สามารถให้คำแนะนำได้…แต่อย่าเข้าไปยุ่ง” มันไม่ใช่ความรัก มันคือการควบคุม
ข้อมูลบอกความจริง
สัญญาใหม่ของซัมเมอร์? เพียง 300,000 ยูโร/ปี จากเดิม 600,000 สัญญาณชัดเจน: เราจำเขานะ…แต่วันนี้เราไปข้างหน้าแล้ว บทบาทของเขาตอนนี้คือ “ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์” ในใต้บังเหียนของลาร์ส ริเก้น เขาอาจเข้าถึงแผนภูมิ xG และข้อมูลสถิติได้…แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงในการโอนผู้เล่นหรือวางแผนทีม เป็นเหมือนโดนเชิญมาประชุมในห้องบอร์ด…แต่มีคนอื่นเขียน agenda
เหตุผลสำคัญสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ว่าใครบางคนถูกจำกัดอำนาจ มันเป็นสัญลักษณ์ของแนวโน้มใหญ่ในวงการฟุตบอลยุโรป: การจ้างตำนานเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ในขณะที่ลดอำนาจในการบริหารงานลงอย่างเงียบ ๆ ทำไม? เพราะ ‘ตำนาน’ ไม่วัดผลตาม KPIs จากการทำงานวิเคราะห์ให้ ESPN Brazil ผมเห็นชัดเจนว่าสโมสรที่เน้นข้อมูล เลือกประสิทธิภาพเหนืออารมณ์ ยุคของซัมเมอร์อาจสวยงามและฉลาดมาก…แต่มันเต็มไปด้วยอารมณ์ คนสมัยใหม่อยากเห็น ROI จากการเซ็นสัญญา การประเมินค่าใช้จ่ายต่อนาที และเครื่องมือ AI การจัดหาผู้เล่น เกมเปลี่ยนเร็วกว่าตำนานเสียอีก
มุมขำในห้องประชุม
แปลกๆ ก็ตรงที่ซัมเมอร์ไม่ได้ออกจากสโมสรระหว่างทัวร์พรีซีซั่นสหรัฐฯ—even for training at T-Mobile Park Yet he signed the deal anyway. ภูเขาแห่งศักดาน้อยไหม? หรือเพียงเพราะความเป็นจริง? ผมเดาว่าน้ำหนักสองอย่างผสมกัน พ่อใหญ่อยู่เบื้องหลัง เพราะเขารู้ดีกว่าใครว่าฟุตบอลไม่มีแค่อารมณ์—แต่มันคืออำนาจทางการเมือง certainly…บางครั้ง การทำลายตนเองเพื่อให้คนอื่นมอบหมายงานสำคัญได้นั่นเอง เป็นบทบาทระดับตำนานแท้อะไรเล่า
สรุป: ‘ผลงาน’ สุดยอดจริงหรือ?
แม้ว่าวันนี้ซัมเมอร์จะไม่มีอำนาจในการกำหนดรายชื่อนักเตะ อารายของเขาปรากฏอยู่ khắpสนาม:
- ในแนวทางพัฒนาเยาวชน,
- ในโครงสร้างเกมรับ,
- และในแนวทางเน้นว discipline เหนือแฟชั่นคราฟ แต่นำมาตราฐานของการ ‘ผลกระทบ’ มาเทียบกับ ‘การเข้าถึง’ ประเด็นสำคัญ? Ricken เลือกให้เขาอยู่—เพราะบางอย่าง AI ก็แทนไม่ได้ง่ายๆ