สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิ์

ผมเริ่มติดตามฟุตบอลบราซิเลียนมาตั้งแต่อายุ 14 ปี — ก่อนจะกลายเป็นนักวิเคราะห์ให้ ESPN Brazil โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นทีมรองเต็มๆ เดินหน้าสู่จุดสูงสุด, พลังยักษ์ใหญ่พังลง และการตัดสินจาก VAR เปลี่ยนชะตากรรม

แต่ไม่มีอะไรเตรียมใจผมไว้สำหรับผลการแข่งขันระหว่างปารีสแซงต์แชร์กแมงกับบอตาโฟโก

ใช่แล้ว, บอตาโฟโก — สโมสรจากริโอเดจาเนโรที่เล่นในลีกสองของบราซิล, เจ้าของชื่อเสียงไม่มากนักในระดับประเทศ

และ yet… เขาสามารถหยุด PSG ได้

นี่ไม่ใช่แค่การพลิกความคาดหมาย มันคือเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงหลักการฟุตบอลสมัยใหม่อย่างรุนแรง

เพราะอะไรจึงแตกต่างจากเหตุการณ์เซอร์ไพรส์ครั้งอื่น?

ยอมรับเลยว่า การชนะแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกของเชลซีในปี 2012 เป็นเรื่องเหลือเชื่อ อายุมากเกินไป, พึ่งพาอดีตกาลหลังเมอรอนญูลาออก? เข้าใจได้

แต่ว่าครั้งนี้? ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ

ปารีสดูเหนื่อยไหม? พลาดผู้เล่นสำคัญไหม? เล่นแย่ไหม?

ไม่มีเลย—they were on fire! การถล่มสองครั้งรวดเหนือสโมสรชั้นนำยุโรปอย่างบาเยอร์ Munich เป็นเพียงงานเบื้องหลังธรรมดาสำหรับพวกเขา

ทีมแบบนี้ควรจะเอาชนะฝ่ายกลางระดับใดก็ตามได้อย่างสบายภายในเวลาเที่ยงคืน—10ประตู? เป็นเรื่องปกติ

แต่ว่า…พวกเขาทำประตูได้น้อยกว่า5ประตู

ตอนนั้นมันเรียกหาเลขบนแผนภูมิก็ว่า: อะไรบางอย่างผิดพลาดแล้ว

การคำนวณบอกจริง — อารมณ์อาจหลอกเราได้

ผมตรวจสอบโมเดลอีกรอบ: สัดส่วนครองบอล, xG (จำนวนประตูที่ควรทำ), พื้นที่กดดัน, การเปลี่ยนแปลงสถานะเกม

ข้อมูลชี้ชัดว่า PSG เป็นฝ่ายครอบคลุมอยู่เสมอ แต่ว่าความจริงกลับบอกตรงกันข้าม: ในครึ่งหลัง, บอตาโฟโก มียิงเข้ากรอบมากกว่า PSG?

crazy? — yes, — but true. แม้ว่าพวกเขาจะโชคดีหนึ่งใบแดง ก็เถอะ…พวกเขาเล่นเหมือนเจ้าเก่าในสนามใหญ่อย่างแท้น้ำหนักจริง ๆ เตรียมแผนมาดียอดเยี่ยมหรือเปล่านะ?
อาจไม่มากเท่าวางแผนของเรา
แต่วางแผนแบบแตกต่าง—ระเบียบทาซิติกเกินกว่าระดับลีกของพวกเขา
เพราะอาจมีเจ้าหน้าที่ศึกษาภาพจากนอกประเทศและระบบวิดีโอแอนาไลซึสนานาชาตินี้เอง? This is where my inner ENTJ kicks in: I hate anomalies because they break models—but sometimes, they reveal truths about how football evolves.